

หลวงปู่ศวัส หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่าพ่อปู่ฤษีแต่เดิมท่านเป็นฤษีบำเพ็ญเพียรตนอยู่ตามป่าตามเขาในป่าลึกโดยอาศัยอยู่แต่ในถ้ำ ป่าในประเทศไทย ลาว พม่า เขมรท่านเดินทางไปมาแล้วเกือบทุกที่ ร่ำเรียนวิชาอาคมมามากมายหลายแขนงจากครูฤษีด้วยกันหรือพระสงฆ์ ฆราวาสที่ได้พบเจอในป่าจนเชียวชาญวิปัสสนากรรมฐานและวิชาอาคมไสยเวทย์ชั้นสูงอย่างแตกฉาน หากท่านใดได้ไปกราบ นมัสการก็จะทราบได้ทันทีว่าท่านนั้นคือของจริงแท้อย่างมิต้องสงสัย เพียงหลวงปู่ท่านเห็นหน้า ท่านก็จะทราบได้ทันทีว่าคนที่มาหาเดือดร้อนด้านใดและทำนายทายทักผู้มาเยือนได้อย่างแม่นยำดังตาเห็น หลังจากที่ท่าน ได้ศึกษาวิชาอยู่ในป่าเป็นเวลานานนับสิบปีอาจารย์ฤษีผู้เฒ่าจึงได้กล่าวบอกว่าให้หลวงปู่ไปบวชเป็นพระเสีย และมีครั้งหนึ่งหลวงปู่ศวัส ได้เดินทางไปหาหลวงพ่อพระมหาวีระ หรือ หลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง สิงห์บุรี โดยเมื่อหลวงปู่ศวัสเดินทางไปถึงที่วัด จึงบอกลูกศิษย์หลวงพ่อฤษีลิงดำว่า หลวงพ่อฤษีลิงดำให้มาพบ ลูกศิษย์หลวงพ่อฤษีลิงดำ เห็นท่านแต่งตัวเสื้อเก่าๆขาดๆผมยาวรุงรังจึงไม่ยอมให้หลวงปู่ฤษีศวัสเขาพบ หลวงปู่เลยกำหนดจิตหา สักพักหลวงพ่อฤษีลิงดำเลยให้ลูกศิษย์มาตามท่านเข้าหา ท่านทั้ง2ได้สนทนาธรรมกันนานพ่อควร ท่านได้บอกขอร้องให้หลวงปู่ศวัส ไปบวชเป็นพระเสีย ไปเป็นครูบาอาจารย์ช่วยเหลือคน และเป็นที่พึ่งช่วยเหลือลูกศิษย์ลูกหาชาวบ้านได้แล้ว ท่านนะเป็นครูบาอาจารย์คนได้แล้วนะ ให้ไปช่วยเหลือชาวบ้านทางภาคเหนือนะ เมื่อไปถึงท่านก็จะรู้เอง หลวงพ่อฤษีลิงดำบอกลูกศิษย์ว่าจงอย่าดู่คนแค่ภายนอก ท่านศวัส นะเขานะเป็นพ่อพระนะ จิตใจเขาใสสว่างมาก มีใจใสดังแก้วนะ หลวงปู่จึงได้เดินทางขึ้นสู่ภาคเหนือเพื่อหาพระอาจารย์ที่มี ตบะบารมีพอที่จะบวชให้ตนได้ โดยหลวงปู่จะกำหนดจิตพิจารณาเพ็งมองดู ดวง ของพระอาจารย์แต่ละองค์ ที่ได้พบเจอ หลวงปู่กล่าวว่าหากพระอาจารย์ที่จะบวชให้ท่านนั้น ตบะบารมีไม่ถึงพอ มาบวชให้ท่านแล้วละก็จะเป็นเหตุให้พระอาจารย์ที่บวชให้นั้นเจ็บป่วยอาพาธลงได้และจะยิ่งทำให้เป็นบาปขึ้นไปอีก หลวงปู่ได้ใช้เวลาเสาะแสวงหาเป็นเวลานานหลายเดือนจึงได้พบพระอาจารย์ผู้เฒ่ารูปหนึ่งที่อำเภอบางระจันจังหวัดสิงห์บุรีหลังจากเพ่งพิจารณาดูแล้วจึงได้ขอให้ท่านบวชให้ หลังจากที่บวชเป็นพระสงฆ์แล้วหลวงปู่จึงได้ขอตัวออกธุดงค์ต่อขึ้นสู่ภาคเหนือ จนชาวบ้านพบเห็นเกิดเลื่อมใสศรัทธาจึ่งได้รวมตัวกันซื้อที่ดินผืนหนึ่งถวายให้หลวงปู่สร้างขึ้นเป็นสำนักสงฆ์ เมื่อหลวงปู่ได้เห็นพื้นที่นี้จึงรู้ว่าตรงตามที่อาจารย์ของท่านได้บอกไว้ และที่ตรงนี้ในอดีตเป็นลานประหารเก่าและชาติที่แล้วท่านเคยเสียชีวิตตรงนี้ ท่านมีความผูกพัน หลวงปู่จึงได้พัฒนาพื้นที่รกร้างแห่งนี้จนกลายมาเป็นวัดในปัจจุบันและมีลูกศิษย์ลูกหาทั่วทุกสารทิศ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างหลั่งไหลมานมัสการอย่างไม่ขาดสายเพิ่มขึ้นทุกวันเพราะเขาเหล่านั้นล้วนแต่มีประสบการณ์กับวัตถุมงคลของหลวงปู่เพราะผู้ที่นำไปบูชาต่างก็เห็นผลเร็วสมหวังดังที่ปรารถนาที่ตั้งใจไว้นั่นเอง
หลวงปู่ศวัส พบหลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง
หลวงปู่ศวัส ตอนท่านปฎิบัติธรรม เป็นฤษี ท่านได้เดินทางไปจังหวัดกาญจนบุรี ท่านได้ยินกิตติศัพท์ หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง ท่านจึงได้เดินทางไปหา เมื่อไปถึงวัดไร่แตงทอง ท่านพบหลวงปู่หลิวยืนรอท่านอยู่ หลวงปู่หลิวได้เอ่ยขึ้นว่า ผมรอท่านฤษีศวัส มานานแล้ว ผมดีใจที่ได้พบท่าน ผมมีของจะมอบให้ท่านอย่างหนึ่งผมเก็บไว้ให้ท่านมานานแล้ว ของสิ่งนั้นคือรูปปั้นปู่ฤษีบรมครู รูปปั้นปู่ฤษีบรมครูนี้หลวงปู่ศวัสนำมาไว้บูชาที่วัดเกษตรสุข และยังอยู่ที่วัดจนถึงปัจจุบัน และก่อนจากหลวงปู่หลิว ได้มอบพระเครื่องและวัตถุมงคลส่วนหนึ่งให้หลวงปู่ติดตัวบูชามาด้วย เช่นพญาเต่าเรือน และพระเครื่องหลวงปู่หลิวจำนานหนึ่ง ท่านที่ไปวัดสังเกตุจะเห็นเต่าที่วัดเกษตรสุข ส่วนมากจะเป็นเต่าที่หลวงปู่หลิวมอบให้หลวงปู่ศวัสนั้นเอง
ดูคลิปหลวงปู่ศวัสเสกพระขุนแผนนางร่ำไรรุ่น2 คลิกเลยครับ